เว็บนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือ จึงตกลงรับคำช่วยรีวิวหนังสือ เว็บนี้เพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่วัน ผมก็เพิ่งรีวิวไปเพียงแค่เล่มเดียวเอง แต่ผลตอบรับเกินคาด
ผมไม่ได้คิดจะเอาบทความในนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็ค 99 วัน 99 บทความ นะครับ เพราะจุดประสงค์มันต่างกัน ถ้าผมเอามามันก็คงไม่ต่างกับการที่เอางานเขียนที่ต้องทำ มาขี้โกงยัดเข้าในโปรเจ็ค ผมว่ามันดูขี้โกงไปหน่อย
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ เมื่อผมรีวิวหนังสือที่ผมประทับใจมากเรื่อง Reading and Understanding People : อ่านและเข้าใจคนขั้นเทพ ปรากฎว่า มีน้องคนหนึ่งชื่อน้องกิ๊ฟ และพี่ตอง หนึ่งในแอดมินเว็บที่พออ่านจบ วันรุ่นขึ้นถึงขั้นไปซื้อมาไว้เชยชม
พี่ตองเนี่ย ผมไม่รู้ว่ามาจากการรีวิวของผมหรือเปล่า แต่ของน้องกิ๊ฟเนี่ย น้องออกตัวชัดเจนมาก ตั้งสเตตัสตอนกลางคืนว่า
รีวิวซะแบบต้องหาอ่านบ้างแล้ว
แค่นี้ผมก็ปลื้มมากแล้วนะ ที่มีฟีดแบ็คอย่างดีจากงานเขียนของเรา แต่มันยังไม่เท่าสเตตัสวันต่อมาของน้องที่ว่า
อยากอ่านเพราะเว็บนี้เลยค่า http://readraide.in.th/
ไม่รู้ซิ ในฐานะคนเขียนบทความ มีฟีดแบ็คขนาดนี้ อ่านแล้วกลับไปจัดมาทันทีแบบนี้ มันทำให้คนเขียนหัวใจพองโต ยิ้มไม่หยุดเลย มันปลื้มจริงๆ
คือเขียนงานมาทั้งปี มีคอมเม้นนี้แหละที่ทำให้ผมรู้สึกปลื้มแบบ โคตรปลื้ม บอกไม่ถูกอะ มันเหมือนได้เลื่อนตำแหน่งหรืออะไรแบบนั้นเลย
บางคนอาจจะบอกว่าผมเว้อ แต่มันเรื่องจริง มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ผมรู้สึกเลยว่า คนที่ทำงานเพื่อสังคม ทำงานโดยไม่ได้อะไรตอบแทน เค้าทนทำงานได้ยังไง ผมว่าเค้าอาจจะอยากได้แค่การยอมรับ ได้รับคำชมเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่ผมได้นี้ก็ได้
และหลังจากที่เห็นน้องมีฟีดแบ็คดีแบบนี้ ผมไม่รอช้า จัดการไปซื้อหนังสือมาอ่านอีกเล๋ม กะว่าจะอ่านให้จบและรีวิวให้เสร็จก่อนปีนี้ คำชมมันมีพลังจริงๆ
เหมือนบล็อกนี้แหละครับ ช่วงที่หายไปสองวัน พอรู้ว่ามีคนติดตามอ่านเราอยู่ หรือมีคอมเม้นใต้บทความ มันเป็นพลังให้ผมลุกขึ้นมาเขียนต่อจริงๆ นะ
ลองหาด้านดีๆ ชมคนใกล้ตัวซิครับ มันมีพลังจริงๆ นะ
ว้าว แปปเดียวตอนที่ 12 ซะแล้วว เป็นกำลังใจให้ครบ 99 นะครับ ^^
ตอบลบจริงๆ แค่ 10 เบี้ยวไปสองตอน 555
ลบ