วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

i get tutor สถาบันสอนพิเศษที่เปิดกันเองสองคน

เป็นโปรเจ็คที่คิดขึ้นมากับพี่ต้นที่อยู่เกษตรสานด้วยกัน โดยมีแนวคิดว่าอยากที่จะให้มันเป็นรายได้อีกทางหนึ่งที่จะทำให้เรามีเงินมีทองมากขึ้นในอนาคต แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ต้องบอกเลยว่า เว็บนิ่งมาก งานประชาสัมพันธ์ต่างๆดูล้มเหลวโดยสิ้นเชิง มีคนเข้าเว็บช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้นิ่งไปหมดแล้ว

เราเคยไปตระเวนแปะใบปลิวทั่วกรุงเทพ แต่พอติดไปติดมาพบว่า มันเป็นกลยุทธที่ไม่ดีเอาซะเลย นอกจากจะไม่มีคนติดต่อกลับมาแล้ว มันยังเปลืองพลังงานมากอีก

อีกอย่างที่ทำก็คือลองเอาเว็บไปโพสยังที่ต่างๆ แต่ปรากฎว่าก็มีคนโทรมา แต่เป็นการโทรมาถามว่า "คุณพีรพัฒน์หรือเปล่าค่ะ เออ...เว็บคุณมีหน้าร้านหรือเปล่า" ผมตอบว่าไม่มีครับ แล้วเขาก็วางไป ยอมรับเลยว่าเป็นคนเดียวที่โทรมาจริงๆ โทรมาตอนเช้าด้วย(ปลุกผมอีก)

ตอนนี้ผมก็มีความคิดว่าอยากจะลองโปรโมททางเว็บไซต์ โดยการจ้างโพส ซึ่งผมดูแล้วคู่แข่งเนี่ยมันค่อนข้างสูง จะโปรโมทธรรมดาก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมจึงคิดจะทำ SEO คือการทำให้เว็บติดในกูเกิ้ล แต่ปัญหาอยู่ที่จะให้ทำเองก็ยากมาก จะจ้างเค้าทำก็เงินทุนไม่ถึง ผมก็ไม่รู้ทำไง ผมเลยหันมาทำบล็อกเล่นๆ อย่างที่เป็นอยู่นั่นแหละ และก็ลองโปรโมทเล่นๆ ก็ไม่รู้จะมีคนเข้ามาดูหรือเปล่า แต่ก็ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่

ตอนนี้ผมศึกษา SEO อย่างมาก และหันมาจะเอาจริงเอาจังงกับมันอีกครั้ง ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน ผมไม่ได้อยากจะรวยจากเว็บนี้หรอก แต่แค่อยากให้มันให้รายได้ที่มากกว่างานที่ทำอยู่ทุกวันก็พอ

เอาเป็นว่า ผมอยากรู้ว่าเว็บผมเป็นอย่างไร ผมอยากให้วิจารณ์เว็บให้หน่อยนะครับ ลองเข้าไปดูได้ที่ http://www.igettutor.co.cc/

เหสบคุก้เข้าไปดูได้ที่ข้างบนเลยนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แมนซีตี้...เห้ย...แมร่งเจ๋งว่ะ

นัดนี้ผมกระสันอยากดูมาก บอลคู่ระหว่างแมนยูกับแมนซิตี้ ที่โอลแทรฟฟอร์ด และผมก็ชวนเพื่อนแฟนแมนยูไปดูที่ร้านหมูกระทะอาเหล็ง ที่ดูบอลที่ประจำของผมไปแล้วตอนนี้ บรรยากาศเมื่อไปถึงร้านค่อนข้างเงียบเหงาทีเดียว ผมไม่คิดว่าพอไปถึงคนจะโล่งขนาดนี้ เราไปกันเจ็ดคน มีสามคนที่นั่งดูบอลอย่างใจจดใจจ่อ สองคนเป็นแฟนแมนยู ส่วนผมหงส์แดงพันธุ์แท้

เกมเริ่มดูสูสีทีเดียวทั้งสองทีม แต่แมนยูบุคได้เยอะกว่า แต่ไม่ค่อยมีโอกาสจบสกอร์ ผมก็ดูไปเรื่อยๆ ในใจก็ลุ้นแมนซิตี้อยู่ ด้วยความที่เป็นหงส์แดง และไม่นานบาลอเตลลี่ก็จัดการยิงไกลเข้าไป ต้องบอกว่าลูกนี้ยิงดีมาก ไม่แรงแต่ต้องถือว่าต้องยิงมุมนั้นมุมเดียวถึงจะเข้า โทษใครไม่ได้ลูกนี้เพราะยิงดีจริงๆ ยิงเสร็จผมยังหันไปถามเพื่อนข้างๆเลยว่า เห้ย เหข้าป่าวว่ะ ตอนนั้นแฟนบอลเงียบกันเลย มีผมคนเดียวมั้งที่เฮ

รูปเกมก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา แต่ที่ผมตื่นตาตื่นใจก็คงต้องเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นแมนซิตี้ นัดนี้เรียกว่าจัดเต็มทั้วซิลบา บาลอเตลลี่ กูน และนักเตะอีกหลายๆคนผมจะชื่อไม่ค่อยได้ แบบบอลตัวต่อตัวนี่เอาไม่อยู่ เล่นบอลตามช่องได้ดี มีเพื่อนคอยสอดคอยเติมตลอด

และอีกห้าลูกที่เหลือส่วนใหญ่ก็จะเจอะทางฝั่งซ้ายของแมนยูซึ่งมีเอฟร่าประจำการอยู่ แบ็คตัวนี้ปกติหมว่าเล่นดีนะ แต่นัดนี้ดูรั่วๆยังไงไม่รู้ สูตรเดิมที่แมนซิตั้ใช้ประจำคือ ใช้ความสามารถเลี้ยงเข้าไป หาจังหว่ะจ่ายไปให้สุดเส้นหลัง แต่อยู่ในกรอบเขตโทษหรือไม่ก็ริมๆขอบ และเปิดบอลระดับหัวเข้าเข้ามาหใ้เพื่อนชาร์ต แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ชาร์ตเท่าไหร่ เพราะแค่ยื่นขาไปบอลก็เข้าประตูแล้ว หลายลูกมากที่เป็นอย่างนี้

บอลเปิดของแมนซิตี้จะต่างจากที่ส่วนใหญ่ในอังกฤษคือ ของเขาจะเป็นการเปิดจากริมกรอบเขตโทษ เปิดแบบระดับหัวเข่า คือบอลไปถึงก็จิ้งได้เลย ถ้ากองหลังสกัดพลาดก็มีโอกาสเปลี่ยนทางเข้าประตูได้เหมือนกัน เป็นลูกที่สกัดยาก ต่างจากทีมส่วนใหญ่ที่พอสุดเส้นหลังก็จะเปิดโด่งเข้ามา ซึ่งประสิทธิภาพถือว่าต่ำมาก และกองหลังก็สกัดได้ง่าย

ตอนท้ายเกมบอลก็ยิงไป ทั้งเพื่อนทั้งคนในร้านก็เฮกันไป ผมเข้าใจว่าส่วนใหญ่เซ็งกับฟอร์มแมนยู พอซิตี้ยิงก็แสร้งเฮไปอย่างนั้นปลอบใจตัวเอง ผมเห็นและก็เหนื่อยใจแทนแฟนแมนยูเหมือนกัน อะไรจะเละขนาดนั้น

สุดท้ายที่จะไม่พูดไม่ได้เลยคือตัวสำรองของแมนซิตี้ ต้องบอกว่าเปลี่บนลงมา ผมกับเพื่อนมองหน้ากัน เห้ย...นี่ตัวสำรองเหรอว่ะเนี่ย เปลี่ยนบาลอเตลลี่ออก เอาเซโก้ลงมาแทน โหแมร่ง เซโก้สำรอง ขอมาหงส์ได้มั้ย เท่านั้นยังไม่พอ เอากุนออก ส่งนาสรี่ลง บ้าไปแล้วซิตี้ ขุมกำลังอะไรจะดีขนาดนั้น

สิ่งเดียวที่ผมเห็นไม่เปลี่ยนเลยคือความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นซิตี้ ที่ยังดีไม่มีเปลี่ยน และที่ผมเห็นมากกว่านั้นคือทีมเวร์คที่ดูแล้วมีการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี เข้าขากันมากตัวรุกทั้งหลาย ถึงแม้ช่วงท้ายจะเปลี่ยนสำรอง(ซึ่งเป็นตัวจริงในทีมอื่นสบาย)ลงมาก็ยังเล่้นเหมือนเดิม ทั้งเกมโต้กลับที่ทรงประสิทธิภาพ ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมหลังๆเห็นถล่มทีมอื่นสามสี่ลูกเป็นประจำ พอมานัดนี้ได้เห็นกับตา ผมขอบอกเลยว่า เห้ย...แมร่งเจ๋งว่ะ

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หงส์จ๋า ช่วยยิงบ้างเถอะ

วันนี้นั้นหลังจากว่างๆจากการไปสอนพิเศษมา กลับมาถึงก็เปิดดูฟุตบอล ซึ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ วันฟุตบอลแห่งโลกเลยทีเดียว ฟุตบอลเตะเยอะมากจนเลือกดูไม่ถูก ช่วงหัวค่ำก็เลยจิ้มไปดูบอลพรีเมียร์คู่เล็กๆอย่างหมาป่าวูฟแฮมตัน กับหงส์ขาวสวอนซี

รูปเกมถือว่าหงส์ขาวทำเกมได้เหนือกว่าชัดเจน และพลันที่ผมกดลิ้งเข้ามาดูช่วงนาทียี่สิบกว่าๆ หงส์ขาวก็นำไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปิดบอลอย่างเหนือชั้นจากกองกลาง และก็กองหน้าเอาบอลลง จับหนึ่งทีแล้วยิงผ่านประตูไป ถือเป็นการประสานงานที่เยี่ยมมาก

หลังจากนั้นรูปเกมก็เป็นทางหงส์ขาวที่ครองเมได้มากกว่าอย่างชัดเจน จังหว่ะจบสกอร์ก็เหนือกว่า และหลังจากประตูแรกไม่นานก็มาได้ประตูที่สอง จากการเปิดถวายพานมาจากนักเตะคนแรกที่ยิงประตู ลูกนี้เรียกว่ายิงจ่อๆ(ขอโทษที่จำชื่อนักเตะไม่ได้ซักคน ขอประทานอภัย)

จบครึีงแรกผลเป็น วูฟ 0 สวอนซี 2

เริ่มครึ่งหลังรูปเกมก็ไม่ต่างจากครึ่งแรกมากนัก ก็ยังเป็นหงส์ขาวที่ครองเกมเหนือกว่า นัดนี้ผมว่าหงส์ขาวถึงแม้ว่าจะเป็นทีมน้องใหม่ แต่สไตล์การเล่นนั้นจะเป็นการต่อบอลกับพื้น ใช้ทีมเวิร์คเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมชื่นชมอย่างมาก

หลังจากที่บุคเพลินๆ ช่วงท้ายเกมก็โดนตีเสมอซะอย่างนั้น ทุกคนที่ดูอยู่ก็งง เพราะรูปเกมนั้นดูๆไปหมาป่าไม่มีอะไรสู้ได้เลย จบเกมเสมอ 2-2

จริงๆผมดูคู่นิวคาสเซิลอีกคู่หนึ่ง ผลก็นิวชนะไป 1-0 รูปเกมไม่มีอะไรมาก นิวคาสเซิลคุมเอมอยู่หมัด แต่วีแกนก็เล่นดีแต่จังหว่ะจบไม่คม ประกอบกับกองหลังนิวคาสเซิลเหนี่ยวแน่นทีเดียว ผมว่าสิ่งนี้แหละที่เป็นปัจจัยที่ทำให้นิวคาสเซิลยังไม่แพ้ใครมาจนถึงนัดที่เก้าของฤดูกาล

หงส์คู่สุดท้าย ผมขอไม่พูดอะไรมาก รูปเกมเรียกว่าหงส์ปูพรมถล่มยิ่งกว่าซึนามิ และก็เป็นซัวเรสที่มีจังหว่ะยิงเป็นล้าน ยิงเท่าไหร่ก็ไม่เข้า ยิงออกเองบ้าง ติดเซฟบ้าง ชนเสาบ้าง โอ้ว จะบ้าตาย

นี่ถ้าไม่ได้เบลลามี่มายิงท้ายครึ่งแรกก็ไม่รู้ว่าจะมีประตูหรือเปล่า

ครึ่งหลังก็เหมือนเดิม ผมคิดว่านำลูกนึงแล้วจะเล่นสบาย สอกร์จะไหล ซัวเรสจะเลิกเกร็งซักที ที่ไหนได้ เหมือนเดิม ปูพรมเข้าบุกไม่ให้หายใจหายคอ ซัวเราก็ยิงแป็กเหมือนเดิม ผมว่าจากนัดนี้ซัวเรสต้องไปฝึกยิงประตูอย่างหนัก ให้ใครก็ได้ เอาให้คมๆกว่านี้หน่อย ทุกอย่างเนี่ยพี่เหยินมีหมดแล้ว เหลือแต่จังหว่ะสุดท้ายขอคมอีกหน่อยจะเป็นกองหน้าที่เพอเฟ็กมาก

สุดท้ายไม่มีอะไร แค่อยากจะมาเขียนให้กำลังใจกับนักเตะหงส์แดงและหงส์ขาว ปัญหาที่เหมือนๆกันของหงส์ทั้งสองตัวคือกองหลัง ที่ขาดความแน่นอน บทจะเหนี่ยก็เหนียวใจหาย บทจะแป็กก็สุดๆ หวังว่านัดนี้จะเป็นบทเรียนให้หงส์สองตัวอย่างดีนะครับ ยอมรับว่าเป็นนัดแรกที่ดูกงส์ขาวเล่น พอดูแล้วติดใจพอสมควร หวังว่าโอกาสหน้าผมจะมีโอกาสได้ดูอีกนะครับ และสัญญาว่าจะพยายามจำชื่อนักเตะหงส์ขาวให้ได้ ส่วนหงส์แดง คุณทำดีแล้ว นักเตะทุกคนทำหน้าที่ได้สุดยอด แต่ผมว่านัดนี้ขาดคนตัดเกมอย่างลูคัส ทำให้เกมไม่ต่อเนื่อง และที่เปลี่ยนเอาแอกเกอร์ลงมาช่วงท้ายเกมแทนเดิร์ก เค้า นั้นผมพอเข้าใจ ผมว่าดัลกลิชแค่ต้องการคนมาตัดเกมในช่วงแบบนี้ จะได้บอมบุคอย่างเดียว ซึ่งก็ได้ผลคือ หงส์บุคอย่างเดียว จนช่วงทดเวลาบาดเจ็บมีโอกาสเหน็งๆที่น่าจะเป็นประตูอย่างยิ่งถึงสองครั้ง คาโรลหนึ่งครัง พี่เหยินหนึ่งครั้ง ผมหวังว่านัดหน้าทุกท่านคงไม่มีข้อแก้ตัวอีกนะครับ ไม่มีอะไรมาก ยังไงผมก็ขอเป็นกำลังใจให้หงส์สองตัวอยู่ห่างๆแบบนี้ไปนะครับ

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

หนังเรื่องนี้หลังจากที่ได้ไปดูมามันทำให้ผมมีความประทับใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงของนักแสดงทั้งหมด ตัวเนื้อหาของหนังเองซึ่งก็ต้องชมผู้กำกับที่สร้างหนังออกมาได้ดีมากๆ สุดท้ายผมต้องชมความสุดยอดของเถ้าแก่น้อย หนังเรื่องนี้มันทำให้ผมดูไป ร้องไห้ไปกับความสำเร็จทีละก้าวของเขา

ตัวเนื้อหานั้นก็เริ่มจากเด็กปกติ แต่มันก็ทำให้ผมอึ้งแล้วกับเด็กที่เล่นเกมอยู่ดีๆ ขายของในเกม แล้วมีเงินซื้อรถยนต์ขับด้วยตัวเอง เป็นผมนะถ้าเป็นอย่างเขา ผมคงไม่เรียนแล้ว หันมาเล่นเกมอย่างเดียว ถ้ามันได้ขนาดนั้นต้องเรียกว่าไม่ใช่แค่เล่นขำๆแล้ว แต่มันเอาไปประกอบอาชีพได้เลยทีเดียว

และเมื่อผมได้ฟังต็อปตัวจริงถึงได้รู้ว่า เค้าเทพตั้งแต่เล่นเกมแล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาโม้หรือเปล่าว่ารู้จักไอเท็มทุกชิ้น ราคาที่ควรจะขาย ราคาที่ควรจะซื้อ แต่ถ้าถึงขั้นเล่นเกมแล้วซื้อรถได้ผมว่ามันก็ดูไม่เกินจริงไปนักนะผมว่า

ในส่วนของเนื้อหาผมว่าผู้กำกับนั้นทำออกมาในสัดส่วนที่พอดีทีเดียว ไม่ขาด ไม่เกิน อารมณ์ได้หมด น้องพีชก็เล่นดีมาก ผมอินไปทั้งเรื่องทีเดียว คือดูแล้วก็รู้เลยว่า คนที่จะประสบความสำเร็จนั้นต้องมุ่งมั่นขนาดไหน แล้วเราล่ะมุ่งมั่นกับงานที่เราจะทำขนาดไหน ผมบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ สำหรับคนที่มีความฝัน สำหรับคนที่กำลังทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ผมว่าต้องดู ขนาดผมยังอยากจะเข้าไปดูอีกชนิดไม่เบื่อ

คะแนนที่ผมให้สำหรับเรื่องนี้ 9/10 ที่ผมหักหนึ่งคะแนนเพราะผมว่าถ้ามีเพลงประกอบดีๆใส่เข้าไปผมว่าหนังเรื่องนี้จะปรี้ดปรอทแตกแน่ๆ แต่แค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับผม

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ทำใบขับขี่(ต่อ)

วันนี้ก็ไปที่เดิมครับ กรมขนส่งที่อยู่แถวบีทีเอสบางจากที่ยังไม่เปิด หลังจากเมื่อวานผ่านมาด้วยดีด้วยการสอบได้คะแนนเต็มข้อเขียน วันนี้ก็มาถึงประมาณ 11 โมงกว่าๆ เพื่อมาสอบปฏิบัติ และถือเป็นความโชคดีที่ยังมาทันในการสอบช่วงเช้า

พอมาถึงก็ไปยื่นเอกสารที่ช่อง11 และนำบัตรคิวไปที่สนามทดสอบ ได้เลข97 พอไปถึงก็ได้ดูวีดีโอในการสอบซึ่งมีเพียง 3 ด่านง่ายๆ คือ เดินหน้าถอยหลัง, จอดชิบฟุตบาทและจอดเข้าซอง ผมก็ดูวีดีโอจนเสร็จและก็ตื่นเต้นพอสมควรกับการสอบใบขับขี่ครั้งแรก แต่หลังจากดูวีดีโอแล้วพบว่ามันไม่ยากอะไรเลยทั้งสามด่าน ที่น่ากังวลก็ด่านสุดท้ายเนี่ยแหระ

หลังจากนั้นผมก็จัดการยืมรถมาหนึ่งคัน เป็นเกียร์ออโต้ ที่สภาพถือว่าโอเค จ่ายเงินไป100บาท ผมได้ขับเป็นคันที่สองต่อจากผู้ชายผมสัน หน้าคม ตัวเล็ก ซึ่งเค้าเลือกเกียร์ธรรมดาไปแล้ว ผมก็จัดแจงไหวพระใส่เข็มขัดนิรภัย เปิดกระจกอย่างดี เพื่อเตรียมตัวเข้ารับการทดสอบทั้งสามด่าน

ด่านแรก ขับรถเดินหน้า ถอบหลัง
ด่านนี้เป็นอะไรที่ง่ายมาก เดินหน้า ถอยหลังเป็นระยะทางประมาณ 5 เมตร เดินหน้าให้ตูดพ้น ถอยหลังให้หน้าพ้น โดยที่เครื่องไม่ดับ รถไม่หยุด และไม่ชนกับเสาข้่างทาง มันดูเป็นอะไรที่ง่ายมาก ผมก็ขับชิวๆเดินหน้า แต่ตอนถอยเนี่ย ผมรู้เลยว่าตั้งล้อไม่ตรง ก็พยายามบังคับรถให้อยู่กับร่องกับรอย ผลสุดท้ายชนเสาครับ ไม่ผ่านในด่านนี้

ด่านที่สอง จอดริมฟุตบาท
ด่านนี้ก็ง่ายมาก แค่ขับรถทางตรงให้จอดอยู่ริมฟุตบาท ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร แล้วหน้ารถต้องอยู่ในระหว่างเส้นที่กำหนดให้สองเส้น คือต้องเลยเส้นแรกและไม่เกินเส้นที่สอง ด้วนความตื่นเต้นจากด่านแรก และใจลอยไปถึงด่านสุดท้ายแล้ว ทำให้ผมขับรถไปได้เพียงพอดีเส้นแรก และห่างจากฟุตบาทเป็นวา อารมณ์นั้นผมยอมรับเลยว่าม่ได้ใส่ใจในกติกาที่เค้าวางไว้เลย คิดอย่างเดียวว่าจะเอารถไปจอดรอตรงนั้น ผมว่าเป็นด่านที่ง่ายที่สุด แต่ผมโคตรเซ็งเลย

ด่านที่สาม จอดรถเข้าซอง
ด่านนี้จะมีเสาวางอยู่หน้าและหลัง หน้าที่ของเราคือเอาเรถเข้าไปจอดระหว่างเสาให้ได้ภายใน 7 เกียร์ ดูเป็นอะไรที่ยากนะ แต่ผมว่าผมคิดมาอย่างดีว่าจะทำอย่างไร ประกอบกับเคยเป็นคนโบกรถเลยพอจะรู้ว่าวิธีการนั้นต้องทำยังไง และก็อย่างที่คิด ผมใช้เพียง 3 เกียรื ผมก็สามารถผ่านไปได้อย่างสบาย เห้อ...พูดไปก็เซ็ง...แต่ก็ยังดีที่ยังผ่านตั้งหนึ่งด่าน

การทำใบขับขี่(วันแรก)

วันนี้เป็นวันแรกที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาทำใบขับขี่ ทั้งๆที่ก็ยังไม่มีรถขับ มีแต่รถพ่อ รถน้า ที่ไม่รู้ว่าในอนาคตนั้นเค้าจะยกให้เราซักคันหรือเปล่า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่มำให้ผมลุกขึ้นไปหาใบขับขี่มาครอบครอง สิ่งเดียวที่ทำให้ผมอยากได้ใบขับขี่ก็คือ ตอนนี้ทำรายการทีวี แล้วต้องออกต่างจังหวัด และถ้ารายการผ่านอาจจะต้องเป็นนักขับมือสองในการช่วยหลายๆคนในการขับรถ

ทำใบรับรองแพทย์
การทำใบขับขี่วันแรกนั้นไม่ยากเลย เอกสารก็มีแค่สองอย่างคือ บัตรประชาชนกับใบรับรองแพทย์ ผมแนะนำว่าใบรับรองแพทย์นั้นควรจะเตรียมไปให้พร้อม เพราะถ้าไม่พร้อม พี่วินนั้นก็พร้อมเช่นกันที่จะพาคุณไปทำใบนี้ในสถานที่หนึ่ง ซึ่งแน่นอน ค่าวินก็แพงหูฉี่ และผมก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงตัวเข้าไปทำ และการทำใบรับรองแพทย์นั้นไม่ยากเลย คุณแค่มีบัตรประชาชน หลังจากนั้นคุณก็หงายมือ กำมือ คว้ำมือ กำมือ แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย เสียค่าใบไป 60 ค่าวินไป 80

ที่ขนส่ง
การทำใบขับขี่นั้นก็ให้คุณไปที่ขนส่งยังที่ต่างๆ ส่วนของผมไปที่ขนส่งที่อยู่ตรงบีทีเอสบางจาก(ตอนนี้ยังไม่เปิด) สำหรับวันแรกนั้นก็เป็นอะไรที่เรียบง่าย มีทดสอบสี่ด่านง่ายๆ คือ

1.เหยียบไฟแดง เป็นด่านที่เมื่อเห็นไฟแดงแล้วคุณต้องเหยียบให้ทัน จะมีง่ายๆ สองปุ่มคือ คันเร่งกับเบลก คุณแค่เหยียบคันเร่งให้ไฟเขียวขึ้น และเตรียมตัวเพื่อรอไปแดง เมื่อไฟแดงขึ้นคุณต้องเหยียบให้ทันภายใน 0.7 วินาที ขอบอกว่าเป็นอะไรที่ง่ายมาก

2.ทดสอบสายตาด้านลึก ก็จะมีปุ่มเขียวปุ่มแดงเช่นกัน เขียวเดินหน้า แดงถอยหลัง จะมีไม้สองก้านอยู่ระยะไกลๆ คุณแค่กดปุ่มเขียว แดง บังคับจอดไม้ให้อยู่ขนานกับไม้อีกอันหนึ่งไม่เกินหนึ่งนิ้ว เท่านั้นก็เป็นอันจบ

3.ทดสอบสายตาด้านข้าง ก็จะมีสีเขียง แดง เหลือง คุณมีหน้าที่มองตรง และดูสัญญาณไปที่เจ้าหน้าที่จะกด และตอบให้ตรง แค่นั้นพอ ด่านนี้จะเป็นการทดสอบตาบอดสีไปในตัวด้วย

อบรมรอสอบ
หลังจากนั้นเค้าก็จะพอคุณไปอบรมอีหห้องหนึ่งประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะมีข้อสอบง่ายๆ 30 ข้อ ทำให้ได้เกิน 23 ข้อ เป็นอันผ่าน ผมเห็นทุกคนตั้งใจมาก เพราะถ้าไม่ผ่านก็จะต้องมาสอบใหม่ซึ่งเสียเวลา ผมก็ตั้งใจแต่อยู่ในระดับที่น้อย แต่เวลาสอบผมก็ได้คะแนนเต็ม จริงๆแล้วข้อสอบเป็นอะไรที่ไม่ยาก ตั้งใจฟังบรรยายซักนิด มีเซ้นของความเป็นคนดีหน่อย รับรองว่าข้อสอบนั้นง่ายมาก ต้องลองดู

และจากการที่ผมทำได้คะแนนเต็ม เขาก็เลยแจกหนังสือการ์ตูนมาเล่นหนึ่ง ผมนั่งอ่านเพลินๆไประหว่างนั่งรถกลับบ้านก็ดีเหมือนกัน เป้ฯการ์ตูนเกี่ยวกับเรื่องบนท้องถนน

และพรุ่งนี้ผมจะไปสอบขับรถอีกทีครับ

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ผลงานเก่าๆ ของนาย suatop ตอน ธนาคารอิสลาม

ไปฝากเงินกับอิสลามกัน(บทความที่หายไปในหนังสืออิสลาม)





พุทธ คริส อิสลาม สามารถอ่านได้หมดนะครับ

บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาเพื่อที่จะลงนิตยสารของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่องเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม (ผมเป็นพุทธนะครับ) แต่ด้วยเหตุบางอย่างทำให้บทความนี้ไม่ได้เผยแพร่ ซึ่งจะว่าไปเป็นบทความที่ผมชอบที่สุดในหลายบทความที่ผมเขียนเลยก็ว่าได้ ผมจึงพยายามหาช่องทางในการเผยแพร่ให้คนได้อ่านกัน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า บทความนี้อ่านได้แม้ไม่ใช่คนอิสลามนะครับ


ในขณะที่ระบบทุนนิยมกำลังเฟื่องฟู กับเศรษฐกิจที่ล้มลงแบบไม่เป็นท่าในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ยืนหยัดได้ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำในขณะนี้ได้อย่างมั่นคง สิ่งนี้เรียกว่าธนาคารอิสลาม

เป็นที่รู้กันดีว่าศาสนาอิสลามนั้นเป็นศาสนาที่ต่อต้านการมีดอกเบี้ยทุกชนิด โดยที่มองว่ามันเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมโลกกันจนเกินไป ลองคิดดูว่า ถ้าเราขอยืมเงินเพื่อนมา 100 บาท แต่เราต้องจ่ายคืน 120 บาท ถ้าเราเป็นคนให้ยืมเราจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งศาสนาอิสลามนั้น ทุกคนก็เปรียบเสมือนเพื่อน พี่ น้อง กันทั้งหมด แล้วถ้าเพื่อนมาทำอย่างนี้กับเรา เราคงจะรู้สึกแปลกๆ

ธนาคารอิสลามนั้นก็เป็นการดำเนินกิจการโดยการรับฝากเงินจากบุคคลทั่วไป โดยที่เงินที่ฝากนั้นจะไม่มีดอกเบี้ยให้กับผู้ฝาก แต่ธนาคารอิสลามนั้นจะนำเงินของเราไปลงทุน แล้วถ้าได้กำไรก็จะนำเงินส่วนนั้นมาแบ่งกันตามสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งระบบนี้มันก็คล้ายๆ กับระบบสหกรณ์ ที่รวบรวมเงินทุนจากในหมู่บ้านให้มาเป็นสมาชิกร่วมกัน และพอสหกรณ์มีผลกำไรก็จะมีเงินปันผล

ระบบธนาคารอิสลามนั้นไม่ใช่แต่จะให้คนมุสลิมฝากได้อย่างเดียว บุคคลทั่วไปก็สามารถเข้าไปฝากในระบบธนาคารอิสลามได้เหมือนกัน และสิทธิ หรือเงินปันผลก็จะได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่เป็นมุสลิม ผมว่าระบบนี้น่าจะได้เงินมากกว่าฝากธนาคารปกติเสียอีก ซึ่งปัจจุบันเราก็น่าจะพอรู้ว่าดอกเบี้ยเงินฝากนั้นน้อยมาก และธนาคารอิสลามในปัจจุบันก็ไม่ได้เข้าถึงยาก หลายธนาคารในประเทศก็ได้เปิดระบบธนาคารอิสลามให้กับบุคคลทั่วไปได้ใช้บริการกันบ้างแล้ว

การฝากธนาคารอิสลามนั้นก็เป็นเหมือนการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับเราไปฝากให้ธนาคารนั้นลงทุนให้เรา ซึ่งเงินที่ได้จากการลงทุนนั้น ขั้นต่ำก็จะเป็นแบบ 50:50

เห็นอย่างนี้แล้ว ผมชักอยากนำเงินเก็บไปลงทุนกับธนาคารอิสลามบ้างจริงๆ

ผลงานเก่าๆ ของนาย suatop(1)

เพราะเราเป็นอย่างนี้ มันจึงเป็นแบบนั้น



บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นน้องคนหนึ่ง ซึ่งทำงานทีไรมันเครียดทุกที แล้วก็พูดถึงเรื่องการเมืองในช่วงนั้นด้วยครับ

ประตูเปิด เพราะเราเปิดประตู
หน้าต่างปิด เพราะเราปิดหน้าต่าง
โจรเข้าบ้าน เพราะเราล็อกบ้านไม่ดี
โลกร้อน เพราะเราทำให้มันร้อน
เค้าไม่รักเรา เพราะเราทำให้เค้าไม่รัก
บลา บลา บลา

หลังจากที่เจออะไรผิดพลาดผมมักจะต้องมองตัวเองก่อนอยู่เสมอว่าเราทำอะไรลงไป แทนที่จะถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

ประโยคสองประโยคข้างต้นดูเหมือนจะเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

"เราทำอะไรลงไป" เป็นการโทษตัวเองอย่างชัดเจน ไม่เดือดร้อนใคร หาคำตอบที่มาจากตัวเอง ไม่มีการโทษคนอื่น ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วคนที่คิดได้แบบนี้มันค่อนข้างอุดมคติมากที่เจอความผิดพลาดแล้วจะไม่คิดโทษสิ่งภายนอกตัวเลย

"ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น" อันนี้เป็นเหมือนกับการตั้งคำถามเพื่อหาสาเหตุโดยการมองจากคนอื่นเป็นหลัก มันต่างกันตรงนี้แหละ

บ้านเมืองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเราไม่ยอมพิจารณาตัวเองว่าเราทำอะไรลงไปมันจึงเป็นเช่นนั้น เอาแต่โทษคนอื่นว่าเพราะเขาทำอย่างนี้มันจึงเป็นอย่างนั้น
เคยคิดหรือไม่ว่า "เพราะเราชุมนุม ตำรวจจึงได้ออกมา"
"เพราะเราใช้ความรุนแรงก่อน ชาวบ้านจึงกลัว"
"เพราะเรามาจากรัฐบาลผสม คนบางกลุ่มจึงไม่ยอมรับ"

เครียดนะครับการมานั่งโทษคนอื่นอย่างนี้ ต้องกังวลว่าเค้าจะมาทำอะไรเราอีก เราจะจัดการแก้แค้นยังไง ปัตโถ่!!!

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

google adsence กับ google adword กับเว็บสอนพิเศษ

สองสามวันมานี้ได้มีโอกาสได้ทำโปรเจ็คใหญ่ สร้างเว็บไซต์สอนพิเศษ ซึ่งพบว่า มันไม่ง่ายเลย ทั้งคู่แข่งทั้งอะไรต่อมิอะไรมากมาย ทำให้วันนี้เราเลยต้องหาช่องทางประชาสัมพันธ์ พอถาม google (ต่อไปขอเรียกว่า "อากู๋") ก็เลยเห็นช่องทางหนึ่งซึ่งเรียกว่า google adsense

สำหรับคนไม่รู้ กูเกิ้ลแอดเซส เป็นการนำแบนเนอร์ที่ได้ทำการลงโฆษณากับทางอากู๋มาแปะในเว็บเรา ผมยอมรับเลยที่ตัดสินใจสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาเนี่ยเพราะต้องการทดลองทำกูเกิ้ลแอดเซสเนี่ยแหละครับ แต่ผมจะไม่เล่าละเอียดนะครับว่าทำยังไง แต่ขอเล่าวิธีการหาข้อมูลของผมดีกว่า

ครับก็อย่างที่บอกแล้วว่าผมทำเว็บสอนพิเศษ และผมก็คงต้องมีการโฆษณาตามเว็บต่างๆ ซึ่งหนึ่งช่องทางที่ผมเห็นก็คือ เว็บของอากู๋นั่นเอง ผมเลยจัดแจงหาข้อมูล ใส่คำค้นต่างๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้ข้อมูลอะไรมากมาย จนผมนึกถึงเว็บดราม่าแอดดิกขึ้นมา มันก็เลยทำให้ผมเชื่อมโยงไปถึงการทำความรู้จักกับ google adsense

ในตอนหนึ่งของดราม่าได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ไว้ และผมเป็นคนที่เสพติดอย่างมากผมก็เลยไม่รีรอที่จะรีบไปหาข้อมูลต่างๆนานา มาเพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลที่ผมได้นั้นน่าสนใจมาก จากที่แค่การโฆษณาเล็กๆ กลายเป็นช่องทางการหารายได้อย่างดี เพียงแค่นำแบนเนอร์เข้ามาติดในเว็บ แล้วแค่มีคนมาคลิกถึงจำนวนเราก็จะได้เงินกลับมา มันเป็นอะไรที่ดีมาก แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมแค่ต้องการช่องทางการโฆษณาเว็บของผมเฉยๆ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงตัดทิ้งไป

หลังจากนั้นผมก็ได้ไปเจอมาอีกคำหนึ่งคำ google adword สิ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่ผมต้องการ ผมก็ทำการค้นไปเรื่อยๆ จนเจอของฟรีที่ให้สมัคร adword แล้วลงโฆษณาฟรีที่ 1500 บาท สิ่งแรกที่ผมคิดคือ "ทำไมมันแพงจังว่ะ" คือบอกว่าของฟรียัง 1500 บาทแล้วเนี่ย ผมไม่กล้าคิดต่อเลยว่าถ้าจะต้องลงแอดจริงๆต้องเสียเท่าไหร่ ผมก็ไม่ปล่อยให้ข้อสงสัยนี้หายไปครับ วันนี้ผมต้องตัดสินใจให้ได้ว่าจะสมัครดีหรือไม่สมัครดี ผมจึงตัดสินใจไปถามในเว็บดรามาแอดดิก เว็บต้นเรื่องที่ทำให้ผมสนใจ

หลังจากถามแล้วผมก็เลยเคลียข้อสงสัยไปเลย และก็ได้บทสรุปดังนี้ (เล่ามาตั้งนาน)

google adsense เป็นการนำลิ้งมาแปะในเว็บเฉยๆ แล้วก็ได้เงินตามจำนวนคลิก กับตามจำนวนที่เราไปลงโฆษณา รายละเอียดขอไม่พูดแล้วกันครับ ลองไปดูเอาในนี้ครับhttp://adsenseblog-rich.blogspot.com/

ส่วน google adword เนี่ยเป็นการทำโฆษณาเว็บของเรา โดยที่จ่ายตังให้กับ google แล้วก็จะมีแอดของเราไปโผล่ตามที่ต่างๆ ที่ adsense ไปโพสครับ หลักการทำงานก็ง่ายๆเช่นนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมได้คำตอบมาคำเดียวครับว่า "แพงมาก" เท่านั้นแหละครับ ผมก็ไม่ถามต่อแล้ว ขนาด 1500 บาทยังให้ลงฟรี แล้วคิดดูครับ ว่าค่าแอดมันจะเท่านั้นเองเหรอ...

ร่ายมาซะยาว ใครหลงเข้ามาอ่านก็ลองดูนะครับ อาจจะได้ความรู้บ้าง ไม่ได้บ้าง ได้มากบ้าง น้อยบ้าง ก็คละเคล้ากันไปครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่ยังอุตส่าหลงเข้ามาอ่านบทความดีๆแบบนี้ครับ ห้าห้าห้า