วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ผลงานเก่าๆ ของนาย suatop ตอน ธนาคารอิสลาม

ไปฝากเงินกับอิสลามกัน(บทความที่หายไปในหนังสืออิสลาม)





พุทธ คริส อิสลาม สามารถอ่านได้หมดนะครับ

บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาเพื่อที่จะลงนิตยสารของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่องเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม (ผมเป็นพุทธนะครับ) แต่ด้วยเหตุบางอย่างทำให้บทความนี้ไม่ได้เผยแพร่ ซึ่งจะว่าไปเป็นบทความที่ผมชอบที่สุดในหลายบทความที่ผมเขียนเลยก็ว่าได้ ผมจึงพยายามหาช่องทางในการเผยแพร่ให้คนได้อ่านกัน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า บทความนี้อ่านได้แม้ไม่ใช่คนอิสลามนะครับ


ในขณะที่ระบบทุนนิยมกำลังเฟื่องฟู กับเศรษฐกิจที่ล้มลงแบบไม่เป็นท่าในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ยืนหยัดได้ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำในขณะนี้ได้อย่างมั่นคง สิ่งนี้เรียกว่าธนาคารอิสลาม

เป็นที่รู้กันดีว่าศาสนาอิสลามนั้นเป็นศาสนาที่ต่อต้านการมีดอกเบี้ยทุกชนิด โดยที่มองว่ามันเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมโลกกันจนเกินไป ลองคิดดูว่า ถ้าเราขอยืมเงินเพื่อนมา 100 บาท แต่เราต้องจ่ายคืน 120 บาท ถ้าเราเป็นคนให้ยืมเราจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งศาสนาอิสลามนั้น ทุกคนก็เปรียบเสมือนเพื่อน พี่ น้อง กันทั้งหมด แล้วถ้าเพื่อนมาทำอย่างนี้กับเรา เราคงจะรู้สึกแปลกๆ

ธนาคารอิสลามนั้นก็เป็นการดำเนินกิจการโดยการรับฝากเงินจากบุคคลทั่วไป โดยที่เงินที่ฝากนั้นจะไม่มีดอกเบี้ยให้กับผู้ฝาก แต่ธนาคารอิสลามนั้นจะนำเงินของเราไปลงทุน แล้วถ้าได้กำไรก็จะนำเงินส่วนนั้นมาแบ่งกันตามสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งระบบนี้มันก็คล้ายๆ กับระบบสหกรณ์ ที่รวบรวมเงินทุนจากในหมู่บ้านให้มาเป็นสมาชิกร่วมกัน และพอสหกรณ์มีผลกำไรก็จะมีเงินปันผล

ระบบธนาคารอิสลามนั้นไม่ใช่แต่จะให้คนมุสลิมฝากได้อย่างเดียว บุคคลทั่วไปก็สามารถเข้าไปฝากในระบบธนาคารอิสลามได้เหมือนกัน และสิทธิ หรือเงินปันผลก็จะได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่เป็นมุสลิม ผมว่าระบบนี้น่าจะได้เงินมากกว่าฝากธนาคารปกติเสียอีก ซึ่งปัจจุบันเราก็น่าจะพอรู้ว่าดอกเบี้ยเงินฝากนั้นน้อยมาก และธนาคารอิสลามในปัจจุบันก็ไม่ได้เข้าถึงยาก หลายธนาคารในประเทศก็ได้เปิดระบบธนาคารอิสลามให้กับบุคคลทั่วไปได้ใช้บริการกันบ้างแล้ว

การฝากธนาคารอิสลามนั้นก็เป็นเหมือนการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับเราไปฝากให้ธนาคารนั้นลงทุนให้เรา ซึ่งเงินที่ได้จากการลงทุนนั้น ขั้นต่ำก็จะเป็นแบบ 50:50

เห็นอย่างนี้แล้ว ผมชักอยากนำเงินเก็บไปลงทุนกับธนาคารอิสลามบ้างจริงๆ

ผลงานเก่าๆ ของนาย suatop(1)

เพราะเราเป็นอย่างนี้ มันจึงเป็นแบบนั้น



บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นน้องคนหนึ่ง ซึ่งทำงานทีไรมันเครียดทุกที แล้วก็พูดถึงเรื่องการเมืองในช่วงนั้นด้วยครับ

ประตูเปิด เพราะเราเปิดประตู
หน้าต่างปิด เพราะเราปิดหน้าต่าง
โจรเข้าบ้าน เพราะเราล็อกบ้านไม่ดี
โลกร้อน เพราะเราทำให้มันร้อน
เค้าไม่รักเรา เพราะเราทำให้เค้าไม่รัก
บลา บลา บลา

หลังจากที่เจออะไรผิดพลาดผมมักจะต้องมองตัวเองก่อนอยู่เสมอว่าเราทำอะไรลงไป แทนที่จะถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

ประโยคสองประโยคข้างต้นดูเหมือนจะเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

"เราทำอะไรลงไป" เป็นการโทษตัวเองอย่างชัดเจน ไม่เดือดร้อนใคร หาคำตอบที่มาจากตัวเอง ไม่มีการโทษคนอื่น ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วคนที่คิดได้แบบนี้มันค่อนข้างอุดมคติมากที่เจอความผิดพลาดแล้วจะไม่คิดโทษสิ่งภายนอกตัวเลย

"ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น" อันนี้เป็นเหมือนกับการตั้งคำถามเพื่อหาสาเหตุโดยการมองจากคนอื่นเป็นหลัก มันต่างกันตรงนี้แหละ

บ้านเมืองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเราไม่ยอมพิจารณาตัวเองว่าเราทำอะไรลงไปมันจึงเป็นเช่นนั้น เอาแต่โทษคนอื่นว่าเพราะเขาทำอย่างนี้มันจึงเป็นอย่างนั้น
เคยคิดหรือไม่ว่า "เพราะเราชุมนุม ตำรวจจึงได้ออกมา"
"เพราะเราใช้ความรุนแรงก่อน ชาวบ้านจึงกลัว"
"เพราะเรามาจากรัฐบาลผสม คนบางกลุ่มจึงไม่ยอมรับ"

เครียดนะครับการมานั่งโทษคนอื่นอย่างนี้ ต้องกังวลว่าเค้าจะมาทำอะไรเราอีก เราจะจัดการแก้แค้นยังไง ปัตโถ่!!!

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

google adsence กับ google adword กับเว็บสอนพิเศษ

สองสามวันมานี้ได้มีโอกาสได้ทำโปรเจ็คใหญ่ สร้างเว็บไซต์สอนพิเศษ ซึ่งพบว่า มันไม่ง่ายเลย ทั้งคู่แข่งทั้งอะไรต่อมิอะไรมากมาย ทำให้วันนี้เราเลยต้องหาช่องทางประชาสัมพันธ์ พอถาม google (ต่อไปขอเรียกว่า "อากู๋") ก็เลยเห็นช่องทางหนึ่งซึ่งเรียกว่า google adsense

สำหรับคนไม่รู้ กูเกิ้ลแอดเซส เป็นการนำแบนเนอร์ที่ได้ทำการลงโฆษณากับทางอากู๋มาแปะในเว็บเรา ผมยอมรับเลยที่ตัดสินใจสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาเนี่ยเพราะต้องการทดลองทำกูเกิ้ลแอดเซสเนี่ยแหละครับ แต่ผมจะไม่เล่าละเอียดนะครับว่าทำยังไง แต่ขอเล่าวิธีการหาข้อมูลของผมดีกว่า

ครับก็อย่างที่บอกแล้วว่าผมทำเว็บสอนพิเศษ และผมก็คงต้องมีการโฆษณาตามเว็บต่างๆ ซึ่งหนึ่งช่องทางที่ผมเห็นก็คือ เว็บของอากู๋นั่นเอง ผมเลยจัดแจงหาข้อมูล ใส่คำค้นต่างๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้ข้อมูลอะไรมากมาย จนผมนึกถึงเว็บดราม่าแอดดิกขึ้นมา มันก็เลยทำให้ผมเชื่อมโยงไปถึงการทำความรู้จักกับ google adsense

ในตอนหนึ่งของดราม่าได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ไว้ และผมเป็นคนที่เสพติดอย่างมากผมก็เลยไม่รีรอที่จะรีบไปหาข้อมูลต่างๆนานา มาเพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลที่ผมได้นั้นน่าสนใจมาก จากที่แค่การโฆษณาเล็กๆ กลายเป็นช่องทางการหารายได้อย่างดี เพียงแค่นำแบนเนอร์เข้ามาติดในเว็บ แล้วแค่มีคนมาคลิกถึงจำนวนเราก็จะได้เงินกลับมา มันเป็นอะไรที่ดีมาก แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมแค่ต้องการช่องทางการโฆษณาเว็บของผมเฉยๆ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงตัดทิ้งไป

หลังจากนั้นผมก็ได้ไปเจอมาอีกคำหนึ่งคำ google adword สิ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่ผมต้องการ ผมก็ทำการค้นไปเรื่อยๆ จนเจอของฟรีที่ให้สมัคร adword แล้วลงโฆษณาฟรีที่ 1500 บาท สิ่งแรกที่ผมคิดคือ "ทำไมมันแพงจังว่ะ" คือบอกว่าของฟรียัง 1500 บาทแล้วเนี่ย ผมไม่กล้าคิดต่อเลยว่าถ้าจะต้องลงแอดจริงๆต้องเสียเท่าไหร่ ผมก็ไม่ปล่อยให้ข้อสงสัยนี้หายไปครับ วันนี้ผมต้องตัดสินใจให้ได้ว่าจะสมัครดีหรือไม่สมัครดี ผมจึงตัดสินใจไปถามในเว็บดรามาแอดดิก เว็บต้นเรื่องที่ทำให้ผมสนใจ

หลังจากถามแล้วผมก็เลยเคลียข้อสงสัยไปเลย และก็ได้บทสรุปดังนี้ (เล่ามาตั้งนาน)

google adsense เป็นการนำลิ้งมาแปะในเว็บเฉยๆ แล้วก็ได้เงินตามจำนวนคลิก กับตามจำนวนที่เราไปลงโฆษณา รายละเอียดขอไม่พูดแล้วกันครับ ลองไปดูเอาในนี้ครับhttp://adsenseblog-rich.blogspot.com/

ส่วน google adword เนี่ยเป็นการทำโฆษณาเว็บของเรา โดยที่จ่ายตังให้กับ google แล้วก็จะมีแอดของเราไปโผล่ตามที่ต่างๆ ที่ adsense ไปโพสครับ หลักการทำงานก็ง่ายๆเช่นนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมได้คำตอบมาคำเดียวครับว่า "แพงมาก" เท่านั้นแหละครับ ผมก็ไม่ถามต่อแล้ว ขนาด 1500 บาทยังให้ลงฟรี แล้วคิดดูครับ ว่าค่าแอดมันจะเท่านั้นเองเหรอ...

ร่ายมาซะยาว ใครหลงเข้ามาอ่านก็ลองดูนะครับ อาจจะได้ความรู้บ้าง ไม่ได้บ้าง ได้มากบ้าง น้อยบ้าง ก็คละเคล้ากันไปครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่ยังอุตส่าหลงเข้ามาอ่านบทความดีๆแบบนี้ครับ ห้าห้าห้า