ต้องรู้ให้เยอะ เขียนให้น้อย
ผมจำประโยคเปะๆ ไม่ได้หรอก แต่ความหมายของมันคือ การที่เราจะถ่ายทอดเรื่องราวให้ดีนั้น เราจำเป็นจะต้องเรียนรู้ให้เยอะเสียก่อน ความคิดต้องตกผลึกเสียก่อน งานของเรามันถึงจะออกมาถูกใจ
ผมมีอาชีพสอนหนังสือ ประโยคเด็ดนี้ก็สอนผม ทำให้ผมปฏิบัติตามเสมอมา ตั้งแต่ตอนเรียนที่เกษตรแล้ว ผมเอกคณิตศาสตร์ ดังนั้นผมจึงเรียนคณิตศาสตร์เยอะมาก และก็มีครูท่านหนึ่งเคยบอกว่า (ขอโทษครับที่ผมจำไม่ได้ว่าใครพูด แต่เป็นครูท่านหนึ่งในสาขาการสอนคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน)
เราต้องเรียนให้เยอะ เพราะถ้าเรารู้เท่าเด็ก
เราจะไปสอนเด็กได้อย่างไร
หลังจากประโยคเด็ดนี้ได้ลั่นออกมา จากนั้นทำให้ผมไม่เคยตั้งคำถามกับการเรียนคณิตศาสตร์อีกเลย เพราะผมรู้ว่าผมเรียนไปทำไม เมื่อเจอวิชายากๆ ประโยคนี้ก็จะผ่านเข้ามาในหัวผมเสมอถึงแม้ว่าสุดท้ายผมจะจบไม่สวยก็ตาม 555
และการสอนเด็กทุกวันนี้ ผมจะต้องมีความรู้มากกว่าเด็กเป็นเท่าตัว การเป็นครู ในเรื่องที่เราสอน เราต้องแตกฉาน เห็นอะไรก็ตอบได้ ถ้าตอบไม่ได้ก็ต้องรู้ว่าจะไปหาคำตอบมาจากที่ไหน
จริงๆ ที่เขียนบทความนี้มีจุดประสงค์แค่จะบ่น จากเดิมผมจะเขียนเรื่องภูกระดึงที่เพิ่งไปมา (เดี๋ยวคงได้เขียนแน่ๆ) และก็อยากเขียนเรื่องเพื่อน ที่ผมมีหลายกลุ่มหลายก้อนเหลือเกิน
และพอได้เริ่มเขียน แล้วกลับมาอ่านแล้วรู้สึกว่า มันยังไม่ใช่ และมันยังไม่สามารถที่จะเขียนให้มันจบได้จริงๆ คือมันยังไม่โดนในแบบที่เราอยากให้เป็น มันทำให้รู้เลยว่า การจะเขียนได้ ความคิดต้องตกผลึกเสียก่อน คือไม่ใช่การฝืนเขียน และวันนี้ผมฝืนเขียนมันเลยทำให้ไม่ค่อยดี
จริงๆ วันนี้รีบมาก ต้องไปต่างจังหวัด และมันน่าจะไม่สามารถทำให้ผมสะดวกมาเขียนงานได้ตามสัญญา จึงรีบเขียนไว้ก่อน เดี๋ยวไม่มีเวลา
สุดท้ายขอฝากประโยคเด็ดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่เคยกล่าวไว้ว่า
ถ้าเราไม่สามารถอธิบายเรื่องยากๆ ให้ออกมาดูง่ายๆ ได้
แสดงว่าเรายังไม่รู้จริง
____________________________________
ฟุ้งซะเยอะวันนี้ จริงๆ แล้วไม่รู้จะเขียนอะไร เพราะจะต้องเดินทาง เจอกันใหม่วันพรุ่งนี้ครับ
ปล. รู้สึกกดดันยังไงไม่รู้ เมื่อมีคอมเม้นว่ารออ่าน รอติดตาม 555 ไม่เคยมีคนมาโพสแบบนี้มาก่อน เปิดบล็อกมาตั้งหลายปี
คิกคิก มาช่วยกดดันอีกคน^0^
ตอบลบเหมือนโดนคุณครูตามงานอะ 555
ลบ