วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แตกแทกติก ซันเดอแลนด์ vs ลิเวอร์พูล 1-3

ลิเวอร์พูลกลับขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของตารางอีกครั้งหลังจากคว้าชัยเหนือแมวดำยังถิ่นสเตเดียม ออฟ ไลท์มาได้ 1-3 และเกมนี้เป็นการกลับมาลงสนามอีกครั้งของหลุย ซัวเรสหลังจากที่ถูกแบนไปอย่างยาวนาน ซึ่งเขาต้องการการสร้างสรรค์เกมที่มากขึ้นหลังจากที่ต้องเนียคูตินโย่ไป ส่วนซันเดอร์แลนก็ต้องการชัยชนะในนัดนี้ เพื่อหนีบ๋วย

รอดเจอร์นัดนี้กลับมาด้วยแผน 3-4-1-2 เหมือนเช่นนัดที่เจอผีแดงเมื่อกลางสัปดาห์ที่พ่ายแพ้ไป แผนนี้สร้างขึ้นมาเพื่อความรัดกุมของแผงหลัง และลดจุดอ่อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ (ความไม่แน่นอนของสเคอเทลและการหลุดตำแหน่งของเอ็นริเก้) รวมถึงความแน่นอนในการครองเกม จนถึงการเล่นเกมสวนกลับเร็วที่มีโมเสสอยู่ตรงกลาง แล้วปล่อยให้ซัวเรสและสเตอริดจ์ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าประตู


สิ่งสำคัญที่สุด
การเล่นของโมเสส มีส่วนสำคัญมาก เพราะเขาต้องคอยเชื่อมเกมระหว่างแนวรับไปสู่แนวรุก เพื่อลดช่องว่างระหว่าง เจอราร์ด/ลูกัส ในแผงหลังสู่ ซัวเรส/สเตอริดจ์ ในแนวรุก แฮนเดอร์สันจะเล่นสูงขึ้นมา ทำให้บางทีจะเหมือนกับว่า ลิเวอร์พูลเล่นในแผน 4-4-1-1 ในหลายๆเวลา อย่างไรก็ตาม จากแผนนี้ทำให้แฮนเดอร์สันเล่นได้หลากหลายมากขึ้น ทำให้สามารถวิ่งขึ้นหน้าได้ ซึ่งจากกราฟฟิกข้างล่าง จะแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งวิงแบ็คมีความสำคัญกับแผนการเล่นแบบโต้กลับเร็วของลิเวอร์พูลขนาดไหน ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ จะมีกองหลางหรือกองหลังที่คอยจ่ายให้แฮนเดอร์สันหรือเอ็นริเก้ไปในที่ว่าง เพื่อทำการเชื่อมเกมกับโมเสส หรือไม่ก็ส่งบอลโดยตรงให้โมเสสเป็นคนทำเกม



ในภาพต่อไป จะทำให้เห็นตัวอย่างของการทลายเกมรับของซันเดอร์แลน จากผู้เล่นมาร์คจุดสีแดงของลิเวอร์พูลทั้ง 4 คนที่สามารถสลับตำแหน่งกันได้ โดยมีโมเสสที่กำลังพาบอลไปข้างหน้าสู่ซัวแรสและสเตอริดจ์ ที่มาร์คสีฟ้า ทำให้แนวรับของซันเดอร์แลนด์ไม่เป็นระเบียบ

ส่วนมาร์คสีแดงทั้ง 4 คนจะคอยระวังแนวรับ และจะคอยประคองแนวรุกเมื่อทำผิดพลาด และกองหน้าก็จะมีหนึ่งคนที่จะอยู่โดดเดี่ยวตรงกลาง ส่วนอีกคนก็จะวิ่งออกด้านกว้าง โดยใช้การประสานงานกันของซัวเรสและสเตอริดจ์เพื่อทำลายแนวรับ เพื่อสร้างพื้นที่เล่นให้กับโมเสส

การทำแบบนี้จะทำให้กองกลางของฝ่ายตรงข้ามจะต้องเข้ามาระวังเขา นั่นจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกองกลางกับกองหลัง เพื่อเปิดพื้นที่ในการเล่นให้กับกองหน้าพาบอลเข้าไป เมื่อคุณเฝ้ามองกองหลังซันเดอร์แลนด์ คุณจะไม่แปลกในเลยว่าทำไมทั้งซัวเรสและสเตอร์ริดจ์ถึงทำลายแผงหลังได้ขาดเป็นริ้วๆ ได้โดยจากการเล่นด้านข้าง (ดูได้จากสองประตูที่สเตอริดจ์ออกด้านข้างแล้วเปิดเรียดมาให้ซัวเรสยิงง่ายๆ)


สถิติหลัก
ลิเวอร์พูลครองบอล 53.8% และผ่านบอลเพียง 350 ครั้งจากค่าเฉลี่ย 380 ครั้ง ในขณะที่ซันเดอร์แลนมีโอกาสยิง 23 ครั้ง จากตรงนี้ลิเวอร์พูลยิงตรงกรอบ 6 ครั้งส่วนซันเดอร์แลน 5 ครั้ง ไฮไลท์มันอยู่ที่ความเหี้ยมโหดของการจัดการในพื้นที่สุดท้ายหน้าประตู และผู้ที่ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดเป็นมามาดู ซาโก้ อยู่ที่ 94% ผ่านบอลทั้งสิ้น 49 ครั้ง ส่วนอีกฝั่งเป็นทางด้านของ Sung-Yueng Ki ที่ 94% ผ่านบอลทั้งสิ้น 51 ครั้ง จากการเล่นเป็นมิดฟิลด์ (และนี่เป็นส่วนสำคัญที่นำไปถึงประตูของซันเดอร์แลนด์)

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง



สเตอริ่งลงมาแทนโมเสสใน 15 นาทีสุดท้าย โดยรอดเจอร์ต้องการจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวของเขาจัดการกับแนวรับในช่วงเวลาที่เหลือ เขาไม่เหมือนกับวัลคอตหรือเลนน่อน ที่เป็นปีกธรรมชาติ และมีความสามารถในเกมรุกสูง เขาต่างไปจากนั้นมากทั้งเรื่องความสามารถ การตอบสนอง และความเข้าใจในการเล่นพื้นที่สุดท้าย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่รอดเจอร์ส่งเขาลงในตำแหน่งนี้และช่วงเวลาแบบนี้ นั่นทำให้แฮนเดอสันต้องเข้าไปเล่นตรงกลางแทนที่ของโมเสส และสเตอริ่งก็ไปยืนทางฝั่งขวาแทน เขาแสดงให้เห็นความสามารถในการป้องกันจากการจนะการดวลตัวต่อตัวทั้งสองครั้งในเกม เป็นการดวลทางภาคพื้นดิน และยังสามารถเคลียร์ลูกสำคัญได้อีกด้วย ที่สำคัญ ความฉลาดของเขาก็ไม่สามารถแสดงออกมาเป็นสถิติ ตำแหน่งของเขาก็จะถูกระวังหลังให้โดยตูเร่ เมื่อเขาวิ่งขึ้นไปข้างหน้าเพื่อทำเกมรุก และอยู่ในตำแหน่งที่เกือยจะเป็นกองหน้า

สเตอริ่งอาจจะพบว่าเขาต้องแย่งตำแหน่งโดยตรงกับโมเสส ในขณะที่รอดเจอร์ก็พยายามให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองโดยการลงเล่น และจากโดนแบบของลูคัส และการกลับมาของอัลเลนและคูตินโย่ ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี่ จะมีการแย่งชิงตำแหน่งอย่างสนุกในพื้นที่นี้ในทีมลิเวอร์พูล และนัดที่น่าจับตามองที่สุดเป็นนัดถัดไปที่จะต้องเจอกับคริสตัล พาเลสในวันเสาร์ ที่รอดเจอร์อาจจะจับอัลเลนกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งในตำแหน่งโฮลดิ้ง มิดฟิลแทนตำแหน่งของลูคัส

ตอนนี้ลิเวอร์พูลก็ได้ตกรอบฟุตบอลแคปิตอล วันคัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ต้องกังวลในขณะนี้ ต้องมาดูว่านี่จะเป็นผลดีที่ทำให้หงส์แดงโชว์ฟอร์มได้ดีต่อๆ ไปหรือเปล่า และจะเป็นแบบนี้ไปจนจบฤดูกาลได้หรือไม่

ที่มา : EPLindex
แปลโดย : Tiger Sky(ผมเอง)

แปลผิด แปลพลาดตรงไหน ขออภัยและให้คำแนะนำได้นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น