วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

คิดถึงวิทยา หนังดีที่ครูคู่ควร

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นครูคนหนึ่ง อาจจะไม่ประจำแต่ก็เป็นครูสอนพิเศษคณิตศาสตร์หากินไปวันๆ และก่อนที่จะไปดู มีหลายคนมากๆ บอกว่าไม่อิน ไม่เห็นสนุกเลย แต่คิดว่า คนที่เป็นครูไปดูน่าจะอินนะ

ผมก็คิดว่า เห้ย...รู้ได้ไงว่ะว่าครูจะอิน ซึ่งแต่ละคนไม่มีใครเป็นครูเลยที่มาบอกว่าคนเป็นครูไปดูแล้วจะอินเนี่ย



และก่อนไปดู ผมจะถามทุกคนที่ดูแล้วว่าเปรียบเทียบกับ Timeline และ Until now แล้วเป็นไงบ้าง

และหลายคนที่ได้ดูหนังทั้งสองเรื่องก็บอกว่า ทั้งสองเรื่องข้างบนซึ้งกว่า จนผมก็เริ่มมาคิดจริงจังแล้วว่า สงสัยหนังจะไม่น่าดูจริงๆ

แต่ด้วยรายได้ตอนเปิดตัว มันสูงมากทีเดียว ก็คิดอีกว่า เอ...ลำพังแค่พี่บี้ จะทำให้หนังขายดีขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าหนังมันไม่ดีจริง จนกระทั่งผมพอจะมีเวลาออกไปดูหนังวันนี้เนี่ยแหละ หลังจากที่ไม่ได้ดูมานานมาก (ประมาณ 2 อาทิตย์)

หลังจากดูแล้วผมบอกเลยว่า อินว่ะครับ พอดูแรกๆ ผมไม่ได้อินในฐานะที่เป็นครูนะ แต่อินในตอนที่เป็นนักเรียนมากกว่า โดยเฉพาะตอนเรียนมหาวิทยาลัยเนี่ย มีอยู่ฉากหนึ่งผมอินมาก ฉากที่ครูแอนบอกนักเรียน ป.6 คนหนึ่งว่า

"ไม่ว่าแกจะทำอะไร ก็อย่าทิ้งการเรียนนะ"



น้ำตาแทบซึม คำที่อาจารย์ชนิศวรา ขึ้นมาในหัวผมเลย เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาผมตอนเรียนมหาวิทยาลัย พูดคำเดียวกันนี้เลย น้ำตาแทบซึมเลยผม

แถมดูๆ ไปทั้งครูแอน ครูสอง ก็ทำให้เห็นครูอาชีพจริงๆ ถ่ายทอดความเป็นครูออกมาได้ดีมาก เป็นครูต้นแบบที่ผมคิดว่าครูทุกคนควรจะเอาเป็นแบบอย่าง ทุกวันนี้หลายคนอาจจะลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญสำหรับครูไป ผมว่าถ้าครูได้ไปดูเรื่องนี้ มันจะเป็นการตอกย้ำความเป็นครู จะได้ไม่ลืมตัวไปกับยุคสมัย

และพอดูไป ผมก็ตอบคำถามตัวเองได้ข้อหนึ่งว่า ถ้าไปเทียบกับหนัง Timeline และ Until now แล้ว แบบไหนดีกว่ากัน

ซึ่งผมว่ามันไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะหนังเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักมาน้อย ถึงแม้จะอินแต่ไม่ได้อินจนร้องไห้ แต่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นครูมากกว่า ผมว่าเป็นหนังที่ควรดูเลยล่ะ (มาบอกช้าไปหรือเปล่าก็ไม่รู้)

1 ความคิดเห็น: